วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ความเป็นมา
มหาจุฬาอาศรม
มหาจุฬาอาศรมแห่งนี้ เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนผู้ปฏิบัติธรรม ณ สำนักธรรมวิจัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
มหาวิทยาลัยสังฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทย ในวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
กรุงเทพมหานครและประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ซื้อที่ดินจำนวน ๗๙
ไร่ ที่หมู่ ๓ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง
จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสวนมะพร้าวและลำไย ของนางชวนชื่น ศีระวงษ์
ในนามของมูลนิธิมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๑๗ในราคา
๓๕๐,๐๐๐.๐๐ บาท (สามแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)
ต่อมาเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการให้ทางราชการโอนเปลี่ยนชื่อโฉนดที่ดินจากมูลนิธิมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เป็น มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ-ราชวิทยาลัย
การจัดซื้อที่ดินเพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานแห่งนี้ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิและมหาวิทยาลัย
ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นว่าเป็นสถานที่สงบร่มรื่นดี
มีภูเขาป่าไม้ลำธาร และห่างไกลจากความแออัดและสิ่งรบกวนที่ก่อให้เกิดมลภาวะได้ นับว่าเป็นสถานที่เหมาะอย่างยิ่ง จึงได้จัดตั้งเป็นมหาจุฬาอาศรม
ศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน
และได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้
๑. เป็นศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานของพระนิสิต มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๒. เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมของประชาชนทั่วไป
๓. เป็นศูนย์อบรมจริยธรรมแก่เด็กและเยาวชน
๔. เป็นศูนย์กิจการด้านส่งเสริมศีลธรรม
๕. เป็นศูนย์บริการสถานที่สำหรับค้นคว้าด้านวิชาการของคณะอาจารย์และนิสิต
มหาจุฬาอาศรม
ได้เกิดขึ้นในสมัยที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว
อุปเสณมหาเถร ป.ธ.๙)
เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์
ที่พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นเลขาธิการมหาจุฬาฯ
พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์
(ป. อ. ปยุตฺโต
ป.ธ.๙ )
เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ ที่ พระราชวรมุนีเป็นรองเลขาธิการมหาจุฬาฯ
พระเดชพระคุณพระเทพกิตติโสภณ (สมบูรณ์ สมฺปุณฺโณ
ป.ธ.๗) เป็นผู้ช่วยเลขาธิการมหาจุฬาฯ
ในหนังสือ นิธิมหาจุฬาอาศรม ได้มีคำอนุโมทนา ปรารภ
เชิญชวน
ให้สาธุชนได้ร่วมกันสร้างมหาจุฬาอาศรมของพระมหาเถระ อดีตผู้บริหารมหาจุฬา ทั้ง ๓ รูป
ดังนี้
ในเวลาที่ควรลุกขึ้นทำงาน ไม่ลุกขึ้นทำ
ทั้งที่ยังหนุ่มแน่นมีกำลัง กลับเฉื่อยชา
ปล่อยความคิดให้จมปลัก เกียจคร้าน
มัวซึมเซาอยู่
ย่อมไม่ประสบทางแห่งปัญญา
(๐๕.๑๘) (๒๕/๓๐)
(พระพรหมคุณาภรณ์, อมฤตพจนา,
๒๕๔๘, หน้า ๕๖.)